ต่ออายุใบขับขี่ 1 ปี เป็น 5 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ผมได้ไปทำ ใบขับขี่รถยนต์ และ ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งตอนนี้ ก็เกือบปีแล้ว และพอดี หาจังหวะเวลาได้ ก็เลยรีบไปต่อก่อนเลยดีกว่า โดยสำหรับคนที่ถือแบบ 1 ปี สามารถต่อก่อนวันหมดอายุได้ 60 วัน สำหรับคนที่ถือแบบ 5 ปี สามารถต่อก่อนหมดอายุได้ 90 วันนะครับ บางคนเข้าใจผิด คิดว่าต้องรอหมดก่อนค่อยไปต่อ ไม่จำเป็นเลยครับ เสี่ยงโดนจับอีกต่างหาก

โดยคนที่ถือแบบ 1 ปี จะไปเปลี่ยนเป็น ใบอนุญาตขับขี่ แบบ 5 ปี สำหรับคนที่ถือ 5 ปี ก็ไปต่อ เป็น 5 ปีเหมือนเดิม สำหรับเนื้อหาวันนี้ จะเป็นการต่ออายุ แบบ 1 ปี เป็น 5 ปี

สถานที่ต่ออายุ

ขนส่ง ที่ไหนก็ได้ ที่อยู่ใกล้ ผมไปที่เดิม คือ ขนส่งเขต 3 ตรง BTS บางจาก

เอกสารที่ใช้ ต่อ 1 ปี เป็น 5 ปี

เป็นอีกเรื่องที่สับสนกันมากมายเหลือเกิน สำหรับเอกสาร ทีแรกผมว่า ไม่พลาดแล้ว สุดท้ายก็พลาด เดี๋ยวเล่าให้ฟังต่อไป

1. ใบขับขี่ ไม่ต้องถ่ายสำเนา ต้องเอาตัวจริงไปเท่านั้น
2. ใบรับรองแพทย์ ต้องมีอายุไม่เกิน 30 วัน เมื่อนับจนถึงวันที่เราไปต่ออายุนะครับ (ก็ห้ามไปขอล่วงหน้าเกิน 1 เดือนนั่นแหล่ะ)
3. สำเนาบัตรประชาชน (เอาตัวจริงไปด้วยนะ)
   

แต่ที่ผมพลาดไปก็คือ ผมไปต่อพร้อมกัน 2 ใบ คือทั้งของใบขับขี่จักรยานยนต์ และ รถยนต์ พร้อมกันวันเดียวกันเลย ซึ่งต้องใช้เอกสารข้างต้น จำนวน 2 ชุดนะครับ แต่ถ้าใครต่อใบเดียว ก็ใช้ชุดเดียวพอ ทีแรกผมขอใบรับรองแพทย์เอาไว้ใบเดียว สุดท้ายก็ต้องวิ่งไปขอเพิ่มอีกใบนึง เลยทำให้เสียเวลาไปพอประมาณ (จริงๆ คลินิก อยู่ตรง BTS บางจากนั่นแหล่ะครับ) ส่วนสำเนาบัตรผมถ่ายเอาไว้เผื่ออยู่แล้ว เลยมีครบ 2 ชุด

ขั้นตอน

สรุปขั้นตอน ก็ไม่ยาก ประมาณนี้ครับ

1. เขียนคำร้อง เอาไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ แล้วนั่งรอ
2. เจ้าหน้าที่คืนเอกสาร พร้อมหมายเลข เข้ารับการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
3. ถ้าผ่าน ก็เอาเอกสารไปยื่นเจ้าหน้าที่ รอรับบัตรคิวทำบัตร
4. ถ่ายรูปติดบัตร พร้อมชำระเงิน

แต่ละเขตก็อาจจะต่างกันไปนะครับในส่วนของ ขนส่งเขต 3 ผมระบุ time line เวลาได้ประมาณนี้ครับ

1. 10.03น. แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า เราจะมาต่ออายุบัตร 2 ใบ เค้าให้เอกสารคำร้องมา 2 แผ่น และบอกว่าใช้หลักฐาน 2 ชุด (ตรงนี้ ผมข้ามช่วงเวลาที่ไปขอใบรับรองแพทย์มาเพิ่มแล้วนะครับ)
2. 10.07น. ยื่นเอกสาร แล้วรอเรียก รับเอกสารคืนพร้อมบัตรคิว
3. 10.45น. เจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปทดสอบร่างกาย เหมือนตอนสอบใบขับขี่ครั้งที่แล้วเลยครับ
   - ทดสอบไฟเขียว เหลือง แดง เหมือนเวลาเรามองสัญญาณไฟที่ท้องถนน ก็ขานสีให้ถูกเท่านั้น (อันนี้ ครั้งที่แล้วไม่มี แต่ไม่ได้ยาก)
   - ทดสอบปฏิกิริยา ให้เหยียบคันเร่งค้าง แล้วถ้ามีไฟสีแดงขึ้นมา ก็เหยียบเบรคให้ทันใน 0.75 วินาที
   - เลื่อนแท่งสีขาว ตามระยะทางลึก เพื่อให้ตรงกันพอดี ห่างได้ไม่เกิน 1 นิ้ว
   - เอาหน้าวางบนแท่น มองตรง แล้วดูสีด้วยหางตา แล้วขานชื่อสี
   
4. 10.54น. ทดสอบเสร็จแล้วเอาเอกสารไปยื่นเจ้าหน้า แล้วรอรับบัตรคิวอีกอันนึง เพื่อเข้าไปถ่ายรูปทำบัตร ตรงนี้แหล่ะครับ รอจนเบื่อเลย เพราะว่าผมไปถึง มีคิวรอก่อนหน้าอีก 35 คิว เลยลากยาวไปเลย
   
5. 12.05น. ถึงคิว เข้าไปถ่ายรูป คือ ที่ช้าเพราะว่าคิวเยอะ แล้วพอช่วงเที่ยง เจ้าหน้าที่เค้าก็สลับกันไปพักกินข้าว เลยทำให้ช้าขึ้น ซึ่งตรงนี้ก็เข้าใจได้นะครับ จะให้ไม่กินข้าวเลย ก็คงไม่ถูกต้อง
6. 12.13น. เสร็จเรียบร้อย ได้ใบขับขี่เพิ่มมาอีก 2 ใบ

รวมตอนนี้ที่ตัวเองมีใบขับขี่ 4 ใบเลย ของเก่าเค้าไม่ได้ยึดไป เพราะว่าเค้าให้เราใช้จนถึงวันที่หมดอายุตามหน้าบัตรก่อน เพราะว่าบัตรใบใหม่ มันจะเป็นวันที่ต่อจากบัตรใบเดิมนั่นเอง

มีเรื่องตื่นเต้นเล็กน้อย ตรงที่ว่า หลังจากที่ออกมาเพื่อจะไปทำธุระต่อ ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามสุขุมวิท มุ่งหน้า อโศก ตามปกติ แต่พอเลยเอกมัย ไปนิดเดียว ตกใจทันที เพราะว่าเจอตำรวจ แล้วผมเองก็อยู่เลน 3 ดังนั้น ไม่พลาดครับ โดนเรียกเลย แต่ผมก็ไม่ได้ขัดขืน หรือ ต่อว่า หรือโต้เถียงอะไร เพราะว่าผมยืดอกยอมรับ พูดจาดีๆ เพราะว่าผิดก็คือผิด คุณตำรวจเค้ายังบอกเลย ว่าน้องนี่พูดจาดีนะเนี่ย มีแฟนรึยังเราน่ะ (เอ๊ะ เกี่ยวอะไร) หลังจากที่ยื่นใบขับขี่ไป ผมก็รอเขียนใบสั่งแล้วล่ะ แล้วก็เลยถามไปว่า ต้องไปเสียค่าปรับที่ไหนครับ คุณตำรวจก็บอก ที่โรงพักก็ได้ ผมก็กำลังมึนๆ แล้วนึกขึ้นได้ว่า อ๋อ โรงพักทองหล่อ (ที่มาตั้งด่านนี้คือ ส.น.ทองหล่อ) ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวต้องผ่านพอดี แต่คุณตำรวจก็พูดขึ้นว่า ให้ช่วยมั้ยล่ะ ..... มาถึงตรงนี้ ผมสะอึกและ ช่วยอะไร ยังไง คือจะให้พับเล็กๆให้หรือเปล่า ผมเลยตัดบทไปเลยว่า อ๋อ เดี๋ยวเอาใบสั่งมาดีกว่า เดี๋ยวต้องผ่านพอดี เค้าก็มีขู่เล็กน้อยว่า ไปที่โรงพัก 400 นะ ตรงนี้ 200 ผมก็ เอ๊ะ ยังไงเนี่ย เริ่มมีลูกเล่นหรือเปล่า สุดท้าย คุณตำรวจก็ชี้ไปบอกว่า นู่น สารวัตรนั่งอยู่ตรงนู้น เดี๋ยวขอยึดใบขับขี่ไว้ แล้วเอาใบสั่งเดินไปจ่าย แล้วเอาใบเสร็จกลับมาเอาบัตรคืน ก็จบแล้ว ผมก็เลยตอบไป อ๋อ โอเค

สรุปได้ใบสั่ง แล้วก็เดินไปจ่ายที่สารวัตร 200 บาท ลงชื่อและ รับใบเสร็จกลับมาเรียบร้อย เอาใบขับขี่คืน จบกระบวนการ ซึ่งอันนี้ ไม่ใช่การให้ใต้โต๊ะ หรือติดสินบน หรือทำผิดระเบียบ เรียกรับผลประโยชน์หรือว่าอะไรเหล่านั้นนะครับเพราะว่าเขียนใบสั่งถูกต้อง จ่ายเงินก็รับใบเสร็จกลับมาถูกต้องครับ ผิดจริง จ่ายจริง ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้ตัวแสดงแทนเลยทีเดียว 

การให้สินบนนั้นไม่ควรทำนะครับ คือแบบ win win ช่วยผมหน่อย แล้วยัดร้อยนึงเพื่อไม่ให้ยึดใบขับขี่เขียนใบสั่งแบบนี้ อย่าเลย เพราะว่าถ้าคุณทำ คนอื่นทำ ตำรวจเค้าก็จะออกมาตั้งด่านถี่ๆเลย เพราะว่าได้เงินเร็วดี คุณผิด คนอื่นผิด ก็ยัดเงิน ยัดเงิน ตำรวจก็ยิ่งตั้งด่าน ตั้งด่าน สุดท้ายก็ย้อนกลับมาที่ตัวเองนั่นล่ะครับ ดังนั้น ร่วมกันตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเลยดีกว่า ผิดก็ผิด เอาใบสั่งกลับมา แล้วไปจ่ายเงินให้ถูกต้อง เงินที่จ่ายให้ราชการอย่างถูกต้อง มีใบเสร็จรับเงินถูกต้อง เค้าก็เอาไปพัฒนาประเทศชาติได้อีกนะครับ ถือว่าได้ช่วยชาติทางอ้อมด้วย แต่ถ้ายัดเงิน ติดสินบนเนี่ย ช่วยเหลือปากท้อง ตำรวจที่หิวกระหายอย่างเดียวเลยนะครับ แล้วความหิวกระหายคนเราไม่มีที่สิ้นสุดหรอก โดนหนักอีกเรื่อยๆแน่นอน

จริงๆ ตอนที่ผมได้ใบขับขี่มาเป็น 4 ใบ ยังคิดอยู่ว่า นี่ถ้าโดนจับก็ปล่อยให้ยึดใบเก่าไปเลยก็ได้นะ อีกไม่นานก็หมดอายุแล้ว แล้วใบใหม่ก็มีอยู่ แต่ก็คิดต่อว่าถ้าโดนจับสองรอบ หรือถ้ามีค่าปรับคงค้าง จำได้ว่าต่อทะเบียนไม่ได้อีก นู่นนี่นั่น สรุป ถ้าโดนก็จ่ายไปตามขั้นตอนนั่นแหล่ะ ง่ายดี เลยต้องจ่ายไปตามขั้นตอนครับ จะได้ clear ตัวเองไป

ประสบการณ์ทั้งหมด ก็จบเพียงเท่านี้ ขอบพระคุณสำหรับการติดตามครับ อิๆ