สอบใบขับขี่ ที่ขนส่งเขต 3 BTS บางจาก

วันนี้เป็นวันที่กำหนดเอาไว้ว่าจะไปสอบใบขับขี่ ทีแรกตั้งใจจะไปเมื่อเดือนก่อน แต่มีเหตุติดขัดทำให้ไม่ได้ไป เลยไปวันนี้แทน

หลายอย่างที่หาข้อมูลเอาไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้วเลยลืมไปบ้าง จำได้บ้างบางส่วน แต่เนื้อหาของตอนนี้จะอธิบายสรุปโดยละเอียดเลย ตามประสบการณ์ที่เจอมาจริงๆ ผมไปสอบที่ ขนส่งเขต 3 ซึ่งอยู่เยื้องกับ BTS สถานีบางจาก จะมาด้วยรถเมลหรือ BTS ก็ได้ รถเมลก็รถติดหน่อยนะ ตามปกติของถนนสุขุมวิท ถ้ามารถเมล ก็ลงป้าย BTS บางจากเลยก็ได้ แล้วเดินต่อหน่อยนึง

สำหรับคนที่ต้องการไปสอบใบขับขี่ เริ่มต้น ด้วยการต้องเตรียมเอกสาร 1.ใบรับรองแพทย์ 2.สำเนาบัตรประชาชน 3.บัตรประชาชนตัวจริง สามอย่างนี้เท่านั้น เห็นบางคนเอาสำเนาทะเบียนบ้านไปด้วย ไม่ต้องใช้ครับ

ผมไปถึง 07.15 น. มาถึงมีสองแถว ก็ยืนงงๆ ไม่รู้ว่าแถวไหนคืออะไร ถามคนในแถวเค้าบอกว่า แถวยาวคือ จักรยานยนต์  ผมก็เลยไปต่อแถวสั้น พอต่อก็มีคนที่เดินตรงนั้นบอกว่า ถ้ายังไม่ได้ลงคิวให้ไปต่อแถวยาว เอ้า งงๆ ก็เลยเดินไปต่อแถวยาว แป้บเดียว มันก็เหลืออยู่แถวเดียว ก็ งง อีก ผมต่อแถวยังไม่รู้เลยว่าต่อทำอะไรกัน แต่คิดว่าต้องต่อแถวแน่ๆก็เลยต่อไป สรุปว่าแถวที่ผมต่อคือแถวที่ลงคิวในสมุดครับ เค้าจะรับวันละ 100 คนเท่านั้น ผมต่อจนได้ลงคิวในสมุด เวลา 07.25น. ได้คิวที่ 6X (60กว่าๆ) พร้อมทั้งได้เอกสารมา 1 แผ่น เป็นเอกสารสำหรับเจ้าหน้าที่กรอก ข้อมูลผลการทดสอบ โดยเราจะเขียนชื่อลงในกระดาษนี้เพียงจุดเดียวเท่านั้น แต่ว่า หลังจากที่ผมได้คิว ก็หันไปดูอีกรอบตอน 07.30 น. พบว่า คิวเหลือสั้นมาก อีกแป้บเดียวก็ไม่มีแถวแล้ว แต่ก็มีคนมาลงทะเบียนอยู่ คิดว่าน่าจะยังไม่ครบ 100 คนครับ เท่าที่ดูจากปริมาณ และนับจากคนที่ต่อจากผมด้วย แต่ผมไม่รู้ว่าเต็ม 100 ที่กี่โมงนะครับ สำหรับเลขคิวนี้ กับวันที่เรามาสอบ เราต้องจำให้ได้จนกว่าเราจะสอบผ่านภาคปฏิบัติเลยนะครับ ใช้เลขนี้อ้างอิงตลอดเลย

แล้วก็รอ รอ และรอ สำหรับคนที่มาต่ออายุ 1 ปีเป็น 5 ปีนั้น มาตอน 8 โมง หรือ 8.30 น. เลยนะครับ เพราะว่าคิวนี้ สำหรับคนที่สอบใหม่เท่านั้นครับ ต้องรอเจ้าหน้าที่เริ่มงานจึงจะได้ทำครับ มาก่อนก็เสียเวลารอเท่านั้น

07.40น. ก็เปิดเข้าด้านใน ให้ไปต่อแถว สำหรับคนคิว 1-30 โดยคนอื่นให้นั่งรอก่อน จุดนี้เค้าจะตรวจเอกสารเราครับ ถ้าบัตรประชาชนใครเป็นบัตรเก่า ไม่มีชื่อภาษาอังกฤษ ให้เราเขียนตัวโตๆเห็นได้ชัดด้วย ในสำเนาบัตร พร้อมเซ็นต์รับรองให้เรียบร้อย 

08.00น. ก็ถึงคิว โดยจุดนี้จะใช้ 4 อย่าง คึอ สำเนาบัตรประชาชน,ใบรับรองแพทย์,เอกสารบันทึกผลการสอบ,บัตรประชาชนตัวจริง ยื่นให้เจ้าหน้าที่ตามคิวที่เจ้าหน้าที่เรียก แล้วเจ้าหน้าที่จะคืนบัตรประชาชนพร้อมบัตรคิวให้เรา (เลขคิวจะเป็นเลขเดิมตลอด) ส่วนเอกสารเจ้าหน้าที่จะเก็บไป หลังจากได้บัตรคิว ให้มานั่งดู VDO วิธีการทดสอบทางลึก และทางกว้าง และ การตอบสนองครับ เพื่อเป็นการรอเจ้าหน้าที่เรียกด้วย

08.25น. ก็เรียก บัตรคิว 1-60 เข้าห้องทดสอบ

09.00น. ก็เรียกคิว 61 - 100 เข้าห้องทดสอบ เจ้าหน้าที่จะอธิบายการทดสอบอีกรอบนึงครับ ว่าต้องทำอย่างไร สำหรับการทดสอบอย่างแรกนั้น คือการทดสอบการตอบสนอง กับ ระยะทางลึก ต่อกันเลย
เริ่มต้นด้วยการทดสอบการตอบสนอง ให้เราเหยียบคนเร่ง ค้างไว้เลย แป้บเดียวไฟเขียวจะขึ้น อีกแป้บนึง ไฟแดงจะขึ้น พร้อมกับระบบจะเริ่มจับเวลา พอเราเห็นไฟแดงขึ้น ให้ยกเท้าไปเหยียบเบรกทันที เทคนิคจุดนี้คึอ เมื่อเริ่มเหยียบคันเร่งแล้วให้ตาเรามองไฟแดงอย่างเดียวเลย อย่ามองอย่างอื่น ไฟแดงขึ้นให้เหยียบเบรกทันที อย่ามองไฟหลอดเล็กๆที่มันจะวิ่งขึ้นมา ถ้ามองตรงนั้น ตกแทบทุกราย (เราจะมีเวลาเปลี่ยนจากคันเร่งไปเหยียบเบรค 0.75 วินาทีครับ เกินกว่านี้ตก ต้องไปสอบใหม่อีกรอบ ถ้าตกอีก กลับบ้านเลยนะครับ ไม่ผ่านเลย) จากนั้น ให้เรากดแป้นกดสีแดง เพื่อทดสอบการวัดระยะทางลึก โดยจะมีสองแท่ง ที่วางเหลื่่อมกันอยู่ อันนึงจะยึดอยู่กับที่ เราต้องเลื่อนอีกแท่งนึงเข้าหรือออกจากตัว เพื่อให้ไปเสมอกัน ตรงนี้ยากหน่อย เพราะว่าเรากะไม่ถูกครับ ระยะค่อนข้างไกล แต่มีเทคนิคก็คือ ให้มองแสงไฟที่ตกสะท้อนแท่งทั้งสอง ให้แสงไฟตกกระทบแท่งทั้งสองเหมือนกันพอดีทั้งความสูงและความสว่างครับ นั่นคือเท่ากัน โดยเหลื่อมกันได้ไม่เกิน 1 นิ้ว ของผม ทีแรกก็ว่าเกือบเท่าแล้ว ถ้าเหลื่อมก็ไม่เกิน 1 นิ้ว แต่ได้ยินเสียงพรายกระซิบเป็นผู้หญิงคนหนึ่งจากทางขวาว่า อีกหน่อยล่ะตัวเธอ ผมก็เลยกดอีกนิด ก็ผ่านครับ คือที่มีเสียงกระซิบได้เพราะว่า คนสอบจะนั่งบนเก้าอี้ แล้วคนอื่นๆที่รอสอบก็มาล้อมคนสอบอยู่ครับเพื่อดูและรอคิว เค้าเห็นว่าเหลื่อมเลยกระซิบมาบอก แต่ผมไม่ได้หันไปดูว่าเป็นใครนะครับ คนที่มาสอบด้วยกันสักคนนี่แหล่ะ (ผมสอบเป็นคนที่ 5เลย อยากเสร็จเร็วๆ)

จากนั้นไปเข้าเครื่องวัดสายตาทางกว้างเราต้องเอาหน้าเข้าวางบนแท่น แล้วเจ้าหน้าที่จะกดสี ซึ่งจะมีแค่ เขียว(แก่) เหลือง แดง(แก่) เท่านั้น ปรากฏด้านซ้ายหรือขวาของหน้าเรา ห้ามเหลือบตาไปดู อันนี้ไม่ยาก แต่ผมงง กับสีเขียว กับเหลืองหน่อย เพราะว่าตอนแรกนึกว่าเหลืองคือเขียวอ่อน แต่จริงๆเขียวคือเขียวแก่ แยกได้ไม่ยากครับ

เมื่อผ่านแล้ว เราจะเหลือออกมาแต่บัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้น ที่เหลือคืนเจ้าหน้าที่หมด ถ้าใครติดกระดาษออกมาจากห้องนี้ แปลว่าไม่ผ่านนะครับ

09.30น. หรือหลังจากที่สอบเสร็จเลย ก็ขึ้นไปชั้น 3 ห้อง 311 เข้าห้องก็หยิบหนังสือคู่มือป้ายจราจร ให้ตรงกับเลขคิวเรา(หนังสือจะมีเลขคิวติดชัดเจน) แล้วก็มาอ่านรอได้เลย แล้วก็มีเจ้าหน้าที่มาอธิบายครับ เรื่องที่เจ้าหน้าที่มาอธิบายก็คือข้อสอบนั่นแหล่ะ เค้าไม่ได้เฉลยนะครับคือไม่ได้มาบอกว่า ข้อแรกถามว่าอะไร ต้องตอบว่าอะไร แต่อธิบายเรื่องกฏหมาย กฏจราจร เรื่องป้ายไปเรื่อย เทคนิคคืออ่านหนังสือให้จบ ฟังเจ้าหน้าที่ให้ครบจำให้ได้ บอกก่อนเลยว่า สอบใบขับขี่ ความเข้าใจไม่สู้ความจำครับ ต้องจำให้ได้มากกว่า ขอเพียงแต่ไม่หลับ ตั้งใจฟัง ถ้าจะให้ดี เตรียมสมุดหรือหนังสือไปจดเลยครับ ผมก็จดไปเรื่อยๆ บางคนก็จดใส่ซองใบรับรองแพทย์จนแน่นหมด 5555 หลายคนก็หลับ ผมก็หลับ แต่หลับตอนที่เจ้าหน้าที่พูดนอกเรื่องครับ เพราะไม่ไหว ตื่นเช้ากว่าปกติไปมาก เจ้าหน้าที่ก็บรรยายไปจน 11.30 น. ก็จบ ให้วางหนังสือเอาไว้ที่โต๊ะ ไปกินข้าว แล้วกลับมานั่งที่เดิมตอน 12.45 น.

11.30-12.45 น. พักกลางวัน อาหารกลางวันที่นี่ จัดเข้าขั้นแย่เลยครับ เพราะว่าข้าวราดแกงก็เหลือเศษๆแล้ว กับป้าที่แก่ๆขายแบบเซ็งๆ ให้ข้าวน้อยกับน้อย ไม่น่ากินเอาซะเลย หรือว่า ก๋วยเตี๋ยวที่เหลือแต่เส้นกับน้ำเท่านั้น (ก็ยังขายนะ) มีที่ดูดีคือ ข้าวขาหมูที่ยังเหลือเยอะอยู่ แต่อนิจจา ผมมีแบ้งค์พันใบเดียว ไม่มีแบ้งค์ย่อยเลย เศษก็ไม่มี คือจังหวะหมดพอดีเป๊ะ ในนั้นก็ไม่มีตู้ ATM สุดท้าย เดินออกไปกินริมถนนด้านนอกเลย กับกด ATM กับข้าวเยอะกว่ามาก น่ากินกว่ามาก กินอิ่ม ในราคาราดแกงสองอย่าง 30 บาท พร้อมน้ำดื่มฟรี

12.45 น. คนก็เริ่มกลับมานั่ง ก็ต้องเซ็นต์ชื่อกันด้วยนะครับ แต่มีคนหนึ่ง ผมจำชื่อกับหมายเลขเค้าได้เลย เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ เพราะว่าเมื่อเช้าตอนที่ทดสอบร่างกาย เค้าก็ไม่อยู่เจ้าหน้าที่ต้องเรียก จนมีคนบอกว่า เค้าไปกินข้าว พอช่วงบ่ายทุกคนครบแล้ว ก็เหลือแต่คนนี้คนเดียวอีกครั้ง 13.05 น.เค้าก็ยังไม่มา เจ้าหน้าที่ก็ไม่รอ เปิด VDO ไปเลย จริงๆแล้ว ช่วงบ่ายจะต้องมีเจ้าหน้าที่อีกคนมาบรรยาย แต่ว่าวันนี้เจ้าหน้าที่คนนั้นไม่มา สำหรับ VDO ก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากครับ เป็นภาพเหตุการณ์จังหวะเกิดอุบัติเหตุ แบบจะๆ ติดๆกันมาเลยเป็นสิบๆเหตุการณ์ บางเหตุการณ์คนขี่มอเตอร์โซต์โดนชนกระเด็นหมุนกลางอากาศเลย สาเหตุคือรถกระบะวิ่งผ่าไฟแดงมา และอีกหลายเหตุการณ์ สักพัก เจ้าหน้าที่ก็เข้ามาปิด เพราะว่ามีเจ้าหน้าที่ไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ที่คุมสอบร่างกายช่วงเช้า ให้มาช่วยบรรยายหน่อย จริงๆไม่ใช่หน้าที่เค้า แต่คงจะสงสาร ที่ไม่มีใครบรรยาย เดี๋ยวจะตกกันเยอะเจ้าหน้าที่มา ก็เริ่มเลยครับ ก็บรรยาย เนื้อหาไป ถามตอบกันไป กันหลับ ซึ่งทั้งหมดที่พูดมันก็คือ คำถามที่ออกสอบ หรือเนื้อหาที่เป็นคำตอบทั้งนั้น ใครจดเยอะ จำเยอะก็สบายไปครับ 

14.30 น. บรรยายเสร็จ ก็ออกมาเพื่อไปสอบครับ ห้องอยู่ติดกัน โดยใครจะไปเข้าห้องน้ำก่อนก็ได้ ห้องจะสอบได้คราวละ 30กว่าคน ดังนั้น จะไม่ใช่ทุกคนที่ได้สอบเลย ต้องมีคนนั่งรอ แต่นั่งไม่นาน เพราะว่าทำข้อสอบกันเร็วมาก พอมีคนออกเจ้าหน้าที่ก็เรียกคนที่ยังไม่ได้สอบไปเข้าสอบ โดยจะขานชื่อ แล้วจะได้เอกสารที่ส่งไปเมื่อเช้ากลับมาอีกรอบ พร้อมกับบัตร ที่หน้าตาเหมือนบัตร ATM ติดมาด้วย ซึ่งเราต้องเอาไปเสียบเข้าที่เครื่อง แล้วทำข้อสอบ โดยขั้นตอนโดยละเอียดตรงนี้เจ้าหน้าที่จะบอกตอนก่อนเข้าสอบอีกที ไม่ยากครับ รวมทั้งที่หน้าจอเครื่องที่ใช้สอบก็มีภาพบอกเอาไว้อย่างชัดเจน ถ้าขยันอ่านหน้าจอก็จะเข้าใจว่าต้องทำอะไรยังไงต่อ

สำหรับการสอบ อาจจะเป็นข้อดีของกฏหมายใหม่ ที่อบรม 4 ชั่วโมง เพราะว่าได้ทบทวนทั้งเช้าบ่าย อย่างผมเอง ไม่เคยอ่านไปก่อนเลย ก็ไปฟัง และอ่านเอาจากตอนที่อบรมเลย ฟังไปจดไป จำไป จึงใช้เวลาสอบ 7 นาที ทวนคำตอบทุกข้ออีกรอบ 2 นาที รวม 9 นาทีเสร็จแล้วครับ(เค้าให้เวลาคนละ 60 นาที) แนะนำเลย ว่าให้ทวนคำตอบด้วยนะครับ เพราะว่าเครื่องบางคนมีกดแล้วกระโดดข้ามข้อด้วย  แต่ผมไม่ประมาท ทวนอีกรอบ เพราะว่ากลัวไม่ผ่าน เสียเวลามาสอบใหม่อีกรอบ ถ้าไม่ผ่านวันนี้ ต้องมาสอบใหม่พรุ่งนี้เช้าครับ รอบที่ทวน ผมเปลี่ยนคำตอบข้อนึง(ถ้าไม่เปลี่ยน ผมก็ตอบผิด) กับข้อสุดท้าย ที่ผมไม่รู้คำตอบเลย เพราะว่าไม่ได้ยินเจ้าหน้าที่พูดถึงเลย หรือพูดตอนที่ผมเบลอพอดีนี่แหล่ะ 555
ถามว่า หากมีคราบกรด ที่ขั้วแบตเตอร์รี่ ทำความสะอาดอย่างไร
1.ใช้น้ำร้อนทำความสะอาด
2.ใช้น้ำประปาทำความสะอาด
3.ใช้น้ำอุ่นทำความสะอาด และทาจารบี
4.ใช้นำกลั่นทำความสะอาด และทาจารบี

ข้อนี้ทำอึ้งมากและเป็นข้อสุดท้ายด้วย เพราะอย่างที่บอกว่าไม่ได้ยินเจ้าหน้าที่พูดถึงเลย ผมตอบข้อ 4 ครับคิดว่าน้ำกลั่น มันจะไม่ทำให้ลัดวงจร(คิดเยอะครับ) สรุปเฉลย คำตอบที่ถูกคือข้อ 3 สรุปผล ผมได้ 29เต็ม30 ผลคือผ่านครับ (คนที่ผ่าน จะต้องได้ 23 คะแนนขึ้นไป)

คนส่วนใหญ่จะได้กัน 29-30ครับ แต่อย่าประมาท เพราะว่าคนที่ได้ 19 ก็มี 22 ก็มีนะครับ นั่นคือตกครับ อย่างที่บอก ถ้าคุณไม่หลับ นั่งฟังแล้วจด แล้วจำ ถ้าไม่เบลอตอนสอบ ก็ทำได้แน่นอน ผมว่ามันง่ายกว่าข้อสอบตอนที่เราเรียนหนังสือมาก เหมือนกับได้อ่านโพย แล้วเข้าไปอ่านโจทย์แล้วกาเลย เพราะว่าตัวเลือกเองก็ไม่หลอกเรามากด้วย แล้วได้ทวนเช้าบ่ายด้วย

สรุปก็จบ 1 วันตอนบ่าย 3 เศษๆครับ การสอบปฏิบัติ มาได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป แต่ต้องไม่เกิน 90 วันนะครับ หากเกินต้องเริ่มกระบวนการใหม่หมดครับ สำหรับการสอบปฏิบัติ กี่รอบก็ได้ จนกว่าจะผ่าน เอาไว้ถ้าผมได้ไปสอบจะมาเขียนต่อนะครับ กำหนดไว้ว่าจะไปสอบวันพฤหัสบดีนี้ล่ะครับย้ำอีกทีว่า การสอบไม่ยาก แต่อย่าประมาทและทุกๆการทดสอบ มีคนสอบไม่ผ่านในทุกๆการทดสอบนะครับ คือค่อยๆ ตกไปเรื่อยๆ ทดสอบร่างกายตกประมาณ 10 คนครับ ส่วนข้อเขียนนี้ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ 2 คนครับ เพราะผมนั่งหน้าสุด เลยได้ยินเจ้าหน้าที่คุยครับ

อ้อ เกือบลืม บางคนอาจจะสงสัย ว่าทำไม่มีไปสอบปฏิบัติต่อ เนื่องจาก เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการแก้กฏหมาย ให้ทำการอบรมเพิ่มเป็น 4 ชั่วโมง จากเดิม 2 ชั่วโมง ทำให้เมื่ออบรมและทดสอบข้อเขียนเสร็จก็เย็นแล้ว ไม่สามารถสอบปฏิบัติได้ทัน เลยออกเป็นกฏว่า คนที่ผ่านข้อเขียนกับร่างกาย ให้สอบปฏิบัติได้ในวันถัดไปหรือภายใน 90 วันครับ ไม่มีวันเดียวจบเหมือนเมื่อก่อนแล้ว สำหรับเหตุผลก็คือ เรากำลังจะเข้าสู่ AEC และทุกประเทศให้ความเห็นว่าประเทศไทยมีการสอบใบขับขี่ที่ง่ายที่สุดแล้ว มันต้องยากกว่านี้ เลยเพิ่มความยากเข้ามา และได้ข่าวแว่วมา (แต่ไม่ขอ confirm) ว่าปีหน้าจะเพิ่มเวลาอบรมเป็น 15 ชั่วโมงครับ แปลว่า สองวันก็ไม่จบแน่นอนครับอย่างเร็วก็คือ 4 วันนู่นเลย รวมทั้งคนที่ขอใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์เช่นเดียวกัน ต้องสองวันเหมือนกัน แต่จะต่างจากรถ ตรงที่ว่า วันแรกทดสอบร่างกาย + ฟังอบรม แล้วปิดด้วย สอบปฏิบัติ ในวันเดียวกัน ส่วนวันถัดไปให้มาสอบข้อเขียน (ตกกันกระจาย เพราะว่าลืมหมด) แต่สรุปว่าก็สองวันอยู่ดี ไม่มีวันเดียวจบอีกต่อไปครับ

update สอบใบขับขี่ ภาคปฏิบัติ ที่ขนส่งเขต 3 BTS บางจาก