ควบคุมระบบ-พาแนล

ควบคุมระบบ-พาแนล

หากไม่ทราบว่า panel คืออะไรอ่าน เมื่อจะเริ่มจัดการ php-fusion ตอนนี้ทุกท่านก็ทราบแล้วว่า panel คืออะไร มาลุยเลย

เริ่มจากเข้าจัดการ panel
เริ่มต้นจัดการ panel

จากนั้นเราก็มาดูกันครับ ขอลงรูปอย่างย่อ แต่เนื้อหาครบครับ
เมนูสำหรับการจัดการ panel

สิ่ง ที่ท่านเห็นก็คือ รายการของ panel ที่มีอยู่ในเว็บของเรา ในตอนนี้ ซึ่งจะมีชื่อ, ตำแหน่ง, ลำดับ, ชนิด, สิทธ์การเข้าถึง, ตัวเลือก

1.ชื่อ
- เป็นชื่อที่เราตั้งให้แต่ละ panel ชื่อนี้จะไม่แสดงออกมาที่หน้าเว็บ แต่ว่าส่วนที่เป็นหัว panel ที่ใช้แสดงที่หน้าเว็บเดี๋ยวเรากล่าวถึงอีกที เพราะว่ามันอยู่ในโค้ด

2.ตำแหน่ง
- จะประกอบไปด้วย ซ้าย, ขวา, กลางบน และ กลางล่าง(แปลกดีมะ)

3.ลำดับ
- ก็การจัดเรียง ก่อนหลัง จะมีผล สำหรับส่วนที่อยู่ซ้ายและขวา เพราะว่าฝั่งซ้ายและขวา จะมีการจัดเรียงบนลงล่าง ตามลิสต์นี้

4.ชนิด
- จะมีแบบไฟล์ และ แบบ PHP (เขียนโค้ดเอง)

5.สิทธ์การเข้าถึง
- เรากำหนดได้เองว่าส่วนใดจะให้สมาชิกเห็นอย่างเดียว หรือว่า เห็นกันทุกคน

6.ตัวเลือก
- ใช้เพื่อการแก้ไข เปิด ปิดการใช้งาน และ ลบทิ้ง

เรามาลองทำจริงๆดีกว่าครับให้ทุกท่านคลิกที่ [เพิ่มพาแนลใหม่]
ช่องกรอกข้อมูลสำหรับการสร้าง panel ใหม่
จาก นั้นเราก็จะเห็น ช่องให้เรากรอกข้อมูล ไม่กี่อย่าง ให้ทุกท่านลองใส่ชื่อพาแนลครับ ชื่ออะไรก็ได้ตามใจชอบเลยครับ แล้วก็ใส่รหัสผ่านแก้ไข web (ไม่ใช่รหัส login นะครับ) จากนั้นก็กดบันทึกพาแนลเลย



เมื่อเราสร้างแล้ว หากรหัสไม่ผิด ระบบจะแจ้งว่า เพิ่มพาแนลใหม่แล้ว ก็กด กลับไปยังส่วนจัดการพาแนล
เปิดใช้งาน panel ที่สร้างขึ้น
เรา จะเห็นว่ามีรายการที่เราสร้างขึ้นมาใหม่อีก 1 รายการ เป็นชนิด PHP ก็คือ เราเขียนโค้ดเอง และให้เรากดปุ่มเปิดใช้งาน แล้วลองเปิดเว็บหน้าแรกของท่าน สังเกตที่ซ้ายมือด้านล่าง เราก็จะได้ panel ที่ชื่อว่า name และเนื้อหาว่า content นั่นเอง
พาแนลที่ปรากฏที่หน้าเว็บ

หาก จำได้ ชื่อที่เราตั้งให้มัน ไม่ได้ปรากฏออกมาตรงนี้� ดังนั้นเรามีดูโค้ดกันดีกว่า กดแก้ไข พาแนลที่เราสร้างเมื่อสักครู่ครับ จะมาศึกษาโค้ดกัน

  1. openside("name");
  2. echo "content";
  3. closeside();
หากสังเกต เราจะพบว่า ถ้าเราต้องการสร้าง panel เราจะต้องมีโค้ดชุดนี้เสมอ และการสร้างพาเนล เราก็จะต้อง input เป็น php เสมอ อันนี้เลี่ยงไม่ได้ครับ


โดย function openside() เราจะ input ข้อมูลให้มัน คือ ชื่อของพาแนลที่ใช้แสดงหน้าเว็บนั่นเอง เช่น openside("นี่คือชื่อ") คำว่า นี่คือชื่อ ก็จะปรากฏที่หน้าเว็บ เป็นหัวของกล่องพาแนลครับ

ที่สำคัญ!!! มีfunction openside() จะต้องมี closeside() ตามหลังเสมอ� ตรงกลาง ระหว่าง 2 function คือเนื้อหาที่จะปรากฏในกล่องพาแนลนั่นเอง

ตัวอย่างเช่นผมสร้างใหม่
  1. openside("ทดสอบการสร้าง panel");
  2. echo "สวัสดีครับ นี่คือ <b>พาแนลทดสอบ</b>";
  3. closeside();
ลองรันดูครับ จะเห็นว่าชื่อกล่อง เปลี่ยนไป และเนื้อหาก็เปลี่ยนไปด้วย (copy โค้ดไประวังติดตัวเลขบอกบรรทัดไปนะครับ เดี๋ยว error)

หากเข้าใจกันง่ายๆขึ้นไปอีก openside คือส่วนหัว panel แล้ว closeside ก็คือส่วนหางนั่นเอง เปิดแล้วต้องปิด ไม่งั้นเว็บจะเบี้ยวครับ

ตอนนี้ปัญหาของทุกท่านคงตกอยู่ที่ว่า แล้วถ้าไม่มีความรู้เรื่อง PHP เลยล่ะ.....� ขอให้ใช้โค้ดตามนี้ครับ
  1. openside("ทดสอบการสร้าง panel");
  2. ?>
  3. <!--ตรงนี้สามารถ ใส่เป็นแบบ HTML XHTML เต็มๆได้เลย-->
  4. ทดสอบ <b>ตัวหนา</b>
  5. <?php
  6. closeside();
ลองเอาโค้ดนี้ไปใช้ดูครับรับรองแจ่ม
ตัวอย่างโค้ด panel

แต่!!! ข้อจำกัดเพิ่มขึ้นมาอีก ตรงที่ว่า ต้องใส่ HTML หลังจาก ?> เท่านั้น และต้องใส่ก่อน <?php เท่านั้น คือใส่ตรงกลางระหว่างสองเครื่องหมายนี้
ส่วน บรรทัดที่ 3 จะลบทิ้งหรือไม่ก็ตามสะดวก เพราะว่าไม่แสดงที่หน้าเว็บอยู่แล้ว เนื่องจากผมทำเป็น comment เอาไว้ ต่อจากนี้ คงจะแก้กันต่อได้แล้วนะครับ

อยากแนะนำอีกอย่าง ระหว่างที่ทดสอบ panel ขอให้เปิดเว็บเอาไว้สองหน้า หน้านึงจัดการ panel อีกหน้านึงเปิดหน้าเว็บเราเพื่อ refresh ดูผล เพราะว่าถ้ามันมี error เราก็ยังใช้อีกหน้าต่างแก้ไขได้นะครับ อันนี้ต้องระวัง อย่าแก้ด้วยหน้าเดียว แล้วเอาหน้านั้นไปเปิดทดสอบ กลัวว่าจะ error แล้วกดกลับมาแก้ไม่ได้ก็ยุ่งอีก

ขอจบเรื่อง panel ซ้ายขวาแต่เพียงเท่านี้ เพราะว่าต่อจากนี้เป็น panel ตรงกลางครับ โดยอ่านต่อกันที่หน้าสองครับ
<--PAGEBREAK-->
พา แนลตรงกลางเราจะใช้ function opentable() แทน openside() และ closetable() แทน closeside() นะครับ อันนี้ต้องจำให้ได้ให้ขึ้นใจ ไม่อย่างนั้นถ้าเราสร้าง panel ที่อยู่ตรงกลางด้วย openside มันก็จะออกมาเล็กนิดเดียว

ตัวอย่าง
  1. opentable("ทดสอบการสร้าง panel ตรงกลาง");
  2. ?>
  3. <!--ตรงนี้สามารถ ใส่เป็นแบบ HTML XHTML เต็มๆได้เลย-->
  4. ทดสอบ <b>ตัวหนา</b>
  5. <?php
  6. closetable();
นี่ก็คือส่วนนึงครับ

อีกส่วน ก็คือการกำหนดตำแหน่ง หากเราสร้าง panel ใหม่ แล้วจะเลือกให้อยู่ตรงกลาง มันจะมีกลางบนกลางล่าง คืออะไร?

กลาง บน เราจะใช้สำหรับ panel ที่แสดงเป็น panel ด้านบนสุด เสมอ หากเรายังจำกันได้ ที่หน้าแรกของเว็บเราจะมีกล่องข้อความต้อนรับ นั่นล่ะครับที่เรียกว่ากลางบน� แล้ว ที่หน้าแรกของเราหากจำกันได้อีก จะเป็นส่วนข่าวสาร นั่นล่ะครับ ตรงกลาง (ไม่ใช่กลางล่างนะ) ส่วนกลางล่างก็คือ ส่วนที่อยู่ด้านล่างสุด

ฮิๆๆๆ รู้ว่างง อะไร บนกลางล่างเต็มไปหมด สื่อด้วยรูปครับ

จาก รูป ผมมี panel ทักทายก็คือข้อความต้อนรับที่หน้าเว็บนั่นเองครับ เป็นแบบ กลางบน และ test เป็นแบบกลางล่าง ตรงนี้ขอให้ลองคิดว่า มีบน มีล่าง แล้วตรงกลางล่ะ?
panel กลางบน และ panel กลางล่าง

คำ ตอบอยู่ที่รูปนี้ครับ ตรงกลางก็คือ เนื้อหาของแต่ละหน้าไงครับ เช่น หน้าแรก ถูกกำหนดแต่ดั้งเดิมว่าให้แสดงข่าวสาร ดังนั้น ตรงกลางจริงก็คือ ข่าวสารไงครับ กลางบนก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของ panel ทักทายไป กลางล่างก็ panel ใหม่ที่ผมสร้างขึ้นมา
พาแนล กลางบน กลาง และ กลางล่าง

การสร้าง panel ตรงกลางมีลูกเล่นพิเศษอีกอย่างก็คือเราสามารถกำหนดให้ panel นั้นแสดงไปทุกๆหน้าได้

ลอง สร้างก็ได้ครับ สัก 2 พาแนล กลางบน 1 อันกลางล่าง 1 อัน แล้วทั้งคู่อย่าลืมกำหนดให้แสดงทุกหน้า จากนั้นเราก็เปิดเว็บเราดูทุกหน้า แล้วเราจะเข้าใจ กลางบน กลางล่างมากยิ่งขึ้น

อย่าลืม ตรงกลาง opentable closetable นะครับ เพราะว่าโค้ดมันจะวาง openside ให้ใช้เสมอ เราต้องแก้เองครับ



เรื่องสุดท้าย ของ panel ก็คือ panel ที่สร้างขึ้นมาจากชุดของไฟล์
ชุด ของไฟล์นี้ เราไม่ได้เขียนเองครับ มีคนเค้าเขียนมาให้ หากจำได้ที่หน้าจัดการพาแนล จะพบว่า panel ส่วนใหญ่เป็นชนิดไฟล์ทั้งหมด ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าโค้ดมันถูกเก็บในไฟล์ครับ

ไฟล์เหล่านี้ อยู่ที่ไหน? ไฟล์เหล่านี้ถูกเก็บในแฟ้มที่ชื่อ infusions ซึ่งแต่ละไฟล์เราเห็น มันก็คือแต่ละแฟ้มที่ไปปรากฏใน infusions นั่นเอง ลองเปิดเทียบกันดูครับ

เราจะสร้าง panel ที่ใช้ไฟล์เหล่านี้เมื่อใด?� ก็เมื่อเราเผลอลบพาแนลที่ใช้ไฟล์เหล่านี้ทิ้งไป แต่ตัวไฟล์ยังอยู่ เราก็สร้าง panel จากไฟล์ขึ้นมาได้ใหม่ครับ� หรืออีกกรณีคือการลงตัวเสริมบางตัว ที่จะให้เราสร้าง panel ขึ้นมาแสดงผลด้วยก็เช่นกัน แต่เราจะกล่าวถึงภายหลังครับ

panel ที่สร้างจากไฟล์แล้วเราเขียนโค้ดให้มันด้วย มันจะอิงจากโค้ดหรือจากไฟล์เป็นหลัก?� ถ้าเรากำหนดให้ใช้จากไฟล์ มันจะไม่สนใจโค้ดที่เราเขียนเลยครับ

จบบทความนี้ก็ถือว่าผ่านเรื่อง สำคัญเกือบหมดแล้วครับ(แต่ยังไม่หมด 555) น่าจะจิ้มๆ ใช้ๆให้เกิดไอเดียได้มากขึ้นนะครับ อ่านอย่างเดียวไม่ได้ ต้องลองครับ
Create: Modify : 2009-02-07 10:24:26 Read : 5614 URL :